หน้าใสๆด้วยธรรชาติ
ปัจจุบันนี้เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าการมีหน้าตาดี ผิวพรรณสดใส บุคลิกดีเป็นจุดเริ่มต้นของหลายๆสิ่ง แม้กระทั่งหน้าที่การงานที่แม้จะมีคนพูดว่าคุณภาพของงานไม่ได้ขึ้นอยู่กับหน้าตา แต่ถ้าเรามีใบหน้าหมองคล้ำ เต็มไปด้วยสิว ฝ้า ก็ทำให้ตัวเราเองนี่แหล่ะกังวล กลายเป็นความหดหู่ ใบหน้าเศร้าหมอง แล้วแบบนี้ใครจะเถียงว่าใบหน้าสวยใสไม่ใช่เรื่องจำเป็น….เพราะอย่างน้อยก็จำเป็นกับตัวเราเองนี่แหล่ะ
จริงๆ แล้วการดูแลผิวหน้าตัวเองให้สวยใสมีหลายวิธี เพียงเราเลือกวิธีและผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับเรา เราก็จะมีผิวพรรณที่ถูกใจทั้งตัวเราเองและผู้พบเห็น เราลองมาดูสูตรดูแลผิวหน้าที่เริ่มจากงบเบาๆไม่ลำบากกระเป๋ากันก่อนค่ะ
คนไทยส่วนใหญ่มักมีปัญหาผิวหน้ามัน หรือแม้ไม่ใช่คนที่มีผิวมันแต่อากาศร้อนๆ ของบ้านเราก็กระตุ้นความมันได้ ผิวหน้ามันเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ใบหน้าเราหมองคล้ำไม่ขาวกระจ่าง ด้วยเหตุนี้เรามาเริ่มดูแลผิวหน้าลดความมันกันก่อน
สูตรมาร์คหน้าลดความ
1.สูตรมะนาว ไข่ขาว แตงกวา เป็นสูตรที่สาวๆที่มีผิวหน้ามันบอกต่อกันมานาน เพราะช่วยลดความมันบนผิวหน้าได้จริง โดยน้ำมะนาวที่อุดมไปด้วยสาร AHA (Alpha Hydroxy Acids) และวิตามินซี (Vitamin C) ช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้เป็นกรดซึ่งไม่เหมาะกับการเติบโตของแบคทีเรีย จึงช่วยลดน้ำมันส่วนเกินที่เกิดจากแบคทีเรียเหล่านี้ ไข่ขาวช่วยบีบรัดรูขุมขนให้สิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกินหลุดออกมาได้มากขึ้น และแตงกวาที่มีเอนไซม์ไคซีน (Cryssin) ช่วยย่อยโปรตีน จึงช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าให้เร็วขึ้น และแตงกวาเองยังลดความระคายเคือง ช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื่นไม่แห้งเกินไป เพราะผิวหน้าที่แห้งจะกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันมากเช่นเดิม
วิธีการ โดยใช้น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ไข่ขาว 1 ฟอง และแตงกวาลูกพอประมาณครึ่งลูก นำมาผสมให้เข้ากันจากนั้นนำมามาร์คหน้าทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออก สูตรนี้สามารถทำได้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่หากผิวหน้ามีแผล หรือเป็นสิวอักเสบไม่เหมาะจะใช้สูตรนี้เพราะจะทำให้ผิวอักเสบ
2. สูตรมะเขือเทศ ในมะเขือเทศมีสารไลโคปีน (Lycopene) ที่อยู่ในกลุ่มแคโรทีน (Carotene) ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี (Ultraviolet) ที่เป็นตัวการสร้างสารอนุมูลอิสระ (Oxidant) ขึ้นมาทำลายคอลลาเจน (Collagen) ในชั้นผิว ทำให้ผิวอ่อนล้าและขาดน้ำ ไลโคปีนจะช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและรักษาน้ำในผิวไว้ได้ อีกทั้งวิตามินซีในมะเขือเทศก็ช่วยปรับสมดุลผิว ช่วยลดความมันได้
วิธีการ เพียงนำมะเขือเทศ 1 ผลมาปั่นหรือบดให้ละเอียด นำมาพอกหน้า 15 นาที แล้วล้างออกมะเขือเทศช่วยดูดซับความมันบนใบหน้าและไม่ทำให้ผิวแห้งตึงมากเกินไป สูตรนี้สามารถทำได้ทุกวัน นอกจากพอกหน้าแล้วมะเขือเทศที่ปั่นทั้งเมล็ดก็ใช้ขัดผิวหน้าได้อีกด้วย
3. สูตรมะขามเปียก น้ำผึ้ง สูตรนี้มีสรรพคุณหลายด้านทั้งเรื่องลดการเกิดสิว ลดความมัน ลดสิวอักเสบ รอยหมองคล้ำ เพราะในมะขามเปียกมีสาร AHA วิตามินซี ที่ช่วยปรับสมดุลผิวหน้าเช่นกัน อีกทั้งในน้ำผึ้งยังเป็นสารที่ลดการก่อตัวของเชื้อโรคจึงลดการเกิดสิว ช่วยให้ผิวไม่แห้งหรืออักเสบ
วิธีทำ ให้นำเนื้อมะขามเปียกพอประมาณผสมน้ำผึ้งลงไปคนให้เข้ากันพอหนืดนำมาพอกหน้า 5-10 นาที ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จะช่วยลดความมัน ขจัดเซลล์ผิวที่ตาย กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้หน้าใส แต่สูตรนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่ผิวหน้ามีแผล หรือมีสิวอักเสบ เพราะจะแสบผิวมาก
สูตรพอกหน้าลดความมันทุกสูตรทั้งมะนาว มะเขือเทศ มะขามต่างมี AHA (Alpha Hydroxy Acids) และ BHA (Beta Hydroxy acid) ซึ่งเป็นกรดผลไม้อย่างอ่อนที่ช่วยลดความมันบนผิวหน้า
สูตรมาร์คหน้าสำหรับผิวแห้ง และผิวธรรมดา
4. สูตรกล้วยหอม น้ำผึ้ง กำลังเป็นสูตรที่มาแรงอยู่ในขณะนี้ เพราะสูตรนี้เนื้อครีมที่ออกมาจะข้นพอดี กล้วยหอมมีวิตามินอยู่หลายชนิดนอกจากนั้นยังมีแมกนีเซียมที่ช่วยลดริ้วรอย และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งอีกด้วย
วิธีการ โดยใช้กล้วยหอม 1 ลูก ผสมกับน้ำผึ้ง คนให้เข้ากันเป็นครีมเหนียว นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก สามารถทำได้ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
5. สูตรโยเกิร์ต สูตรนี้นอกจากจะทำให้ใบหน้าชุ่มชื่น ลดริ้วรอย ยังช่วยลดอาการไหม้จากการตากแดดนานๆ ในโยเกิร์ตมีจุลลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อุดมไปด้วยสังกะสีที่ช่วยลดริ้วรอยและกระตุ้นให้ผิวเปล่งปลั่งสดใส อีกทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ป้องกันการเสื่อมของเซลล์
วิธีการ คือ ใช้โยเกิร์ตสูตรธรรมชาติ พอกหน้าทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงแล้วล้างออก สามารถทำได้ทุกวัน หากอยากให้ผิวหน้าอมชมพูให้ปั่นมะเขือเทศผสมลงไปด้วย หรืออยากให้ผิวเนียนนุ่มให้ผสมกล้วยหอมปั่นลงไป
สูตรมาร์คหน้าใส ลดริ้วรอย
6. สูตรว่านหางจระเข้ เติมน้ำให้ผิวหน้าอ่อนล้า สำหรับคนที่อายุมากขึ้นจะพบว่าผิวหน้าแห้งไม่มีน้ำมีนวล แม้จะทาครีมบำรุงผิวหน้าแล้วก็ยังดูล้าไม่อิ่มน้ำอยู่ดี สูตรนี้จะช่วยเติมน้ำให้กับผิว อีกทั้งช่วยลดการอักเสบให้ผิว เหมาะกับผิวที่มีการอักเสบจากสิว
วิธีการ โดยใช้เนื้อว่านหางเจระเข้บด 1 ช้อนโต๊ะ ดินสอพอง 1 ช้อนโต๊ะ และนมสด 1.5 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันและนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก บางสูตรแนะนำให้ผสมไข่ไก่เข้าไปด้วยเพื่อให้ผิวหน้านิ่มแต่ไข่ไก่ต้องมาจากแหล่งที่สะอาดปลอดเชื้อ หากเราไม่มั่นใจไม่แนะนำให้ผสมลงไป
7. สูตรใบบัวบก นมสด ในใบบัวบกมีสารไตรเตอพีนอยด์ (Triterpenoid) ลดการอักเสบ และมีฤทธิ์สมานแผล ทำให้สิวแห้งเร็ว บางสูตรจะผสมไข่ไก่เข้าไปเช่นเดียวกับสูตรว่านหางจระเข้แต่การใช้ไข่ไก่แนะนำเรื่องความสะอาดเช่นกัน นอกจากนี้ใบบัวบกยังมีสารอาร์บูติน (Arbutin) ทำหน้าที่ยับยั้งการสร้างเมลานินที่เป็นตัวก่อให้ผิวคล้ำ
วิธีการ สูตรนี้นำใบบัวบกมาปั่นหรือบดรวมกับนมสดเอาพอให้หนืดไม่เหลวเกินไป แต่ถ้าส่วนผสมที่ได้ดูเหลวอยู่ให้ใส่ดินสอพองลงไปกะให้พอเหนียว หลังจากนั้นนำมาพอกหน้า ทิ้งไว้ 20-30 นาที แล้วล้างออก สามารถทำได้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
8. สูตรน้ำผึ้ง มะนาว นับเป็นสูตรพอกหน้ามหัศจรรย์เพราะใช้ได้ตั้งแต่ลดความมันส่วนเกิน ลดการเกิดสิว ลดสิวอักเสบ และทำให้หน้าใส เปล่งปลั่ง ในน้ำผึ้งมีแอซิติลโคลีน (Acetylcholine) ที่ช่วยลดรอยด่างดำจึงช่วยให้ผิวใส อีกทั้งวิตามินซี (Vitamin C) ในน้ำมะนาวเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ ช่วยให้ผิวสดชื่น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวจึงยืดหยุ่นดี ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
วิธีการ ใช้น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำมะนาว 1 ช้อนชา คนให้เข้ากันไม่ให้เหลวเกินไป นำมาพอกหน้าไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออก สูตรนี้สามารถทำได้ทุกวัน และส่วนผสมที่เหลือจากการพอกหน้าสามารถนำมาบริโภคต่อเป็นยาอายุวัฒนะได้
9. สูตรการพอกหน้าด้วยขมิ้นชัน ในภูมิภาคแถบเอเชียพบว่ามีการนำขมิ้นชันมาใช้ในด้านความงาม อย่างแพร่หลาย สูตรหนึ่งที่นิยมกันคือการพอกหน้าด้วยขมิ้นชัน ขมิ้นชันมีสารเคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoid) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้า ลดรอยย่นบริเวณผิวหน้า และกระตุ้นหลอดเลือดบริเวณผิวหน้าให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น จึงทำให้ผิวหน้าเปล่งปลั่งสดใสช่วยลดความล้าของผิว
วิธีการ นำขมิ้นชันมาบดให้ละเอียดประมาณ 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำผึ้ง และโยเกิร์ตสูตรธรรมชาติอย่างละ 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน ดูให้เป็นครีมเหนียว นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกสูตรนี้สามารถทำได้ 3-4 ครั้ง ต่อสัปดาห์
10. สูตรแอปเปิ้ล นมสด แอปเปิ้ลมีสารต้านอนุมูลอิสระ และมีอิลาสติน(Elastin) และคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น ลดริ้วรอย รวมทั้งมีกรดมาลิก (Malic acid) และทาร์ทาริก (Tartaric acid) ที่ช่วยย่อยโปรตีนจึงช่วยผลัดเซลล์ผิว ส่วนนมสดประกอบด้วยกรดอะมิโน (Amino acid) หลายชนิดที่ช่วยเคลือบผิวให้ผิวเนียนนุ่ม กักเก็บน้ำไว้ที่ชั้นผิวให้ผิวยืดหยุ่นดีขึ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น