HAIR COLOR
สวัสดีสาวๆ Cosme*net จ้าาา พบกันอีกแล้วใน Cosme Intrend วันนี้เรามี Tip & Trick มาฝากอีกเช่นเคยจ้าาา สาว ๆ หลายคนคงมีความคิดอยู่บ่อย ๆ ว่า อยากทำสีผมสวย ๆ เปลี่ยนลุคดี แต่จะทำสีอะไรให้เจิดดีน้า และกำลังหาสีผมที่ทําให้หน้าสว่าง ไม่ต้องห่วง วันนี้เรามีวิธีเลือกง่ายๆ มาฝาก เพราะเรารู้ถึงความเสียใจครั้งยิ่งใหญ่ของสาว ๆ หลายคน ที่ตัดสินใจทำสีผม แต่เมื่อทำออกมาก็พลาดซะงั้น ต้องมานั่งร้องไห้ให้เพื่อนคอยปรับทุกข์ ใช่ไหมล่ะ? ไม่เป็นไร ๆ เราเข้าใจ อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก แต่จริง ๆ เป็นเรื่องใหญ่เนอะ ลองดูคำแนะนำต่อไปนี้ จะได้ทำสีผมกันแบบมั่นใจ พร้อมลุยทุกสถานการณ์ มาดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีขั้นตอนอะไรบ้าง...
สีผมที่ทําให้หน้าสว่าง
1. ดูสีผิว : สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากที่สุด เพราะว่ามองเห็นได้ชัดเป็นอันดับแรก ระวังให้ดี เพราะว่าอะไรรู้มั้ย? สีผมของแต่ละคนมีผลต่อการสีผิวแตกต่างกันไป อย่างเช่น สำหรับสาวผิวเข้ม ผมสีแดงจะทำให้ดูหม่นหมอง ไม่มีชีวิตชีวา แล้วยังทำให้ดูคล้ำขึ้นอีกด้วย ผมสีดำก็เช่นเดียวกัน ส่วนผมสีบลอนด์อ่อนสีผิวก็จะดูไม่เปลี่ยนแปลงนัก สีที่เหมาะควรจะเป็นสีน้ำตาลธรรมชาติ การเลือกสีผมให้เหมาะกับสีผิวเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าไม่อยากทดลองด้วยตัวเอง ลองดูดาราหรือเซเลบที่สีผิวใกล้เคียงเป็นตัวอย่างก็ได้นะ
2. ดูบุคลิก : เชื่อหรือเปล่าว่า สีผมมีส่วนช่วยสร้างบุคลิกภาพได้ด้วยนะ อย่างเช่น สาวมั่น ๆ แรง ๆ ลองเป็นผมโทนสีเข้มอย่างดำ น้ำตาลดำ ไปจนถึงแดง จะทำให้ดูเหมาะกับบุคลิกได้ดี ถ้าหากเป็นผมสีบลอนด์อ่อน ก็อาจจะดูไม่เข้ากับบุคลิกนัก แต่สำหรับสาวเรียบรร้อย เงียบ ขี้อาย ไม่อยากเป็นจุดสนใจ ลองสีผมน้ำตาลธรรมชาติ อาจเพิ่มไฮไลท์สีบลอนด์ก็ได้ สีน้ำตาลดำ หรือสีบลอนด์ทอง ก็น่าจะเวิร์คไม่น้อย สาวคนไหนที่อยากเปลี่ยนลุคก็ลองเทคนิคเหล่านี้ดู
3. การแต่งหน้า : ถ้าชอบแต่งหน้าแบบปัดแก้มด้วยโทนสีพีช ทาปากด้วยโทนสีชมพู ทาตาด้วยโทนสีหวาน ๆ ไม่แนะนำให้ทำผมสีแดง เพราะมันจะขัดแย้งกันสุด ๆ ลองหันมาแต่งโทนสีอย่างดำ น้ำตาล เทา และเงิน หลีกเลี่ยงสีแดง ซึ่งดูภาพรวมแล้วจะช่วยเติมเต็มในส่วนที่บกพร่องได้ โดยจะต้องไม่ใช้โทนสีที่ตัดกันเกินไประหว่างการแต่งหน้ากับสีผม แต่ในบางกรณีก็อาจจะไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป ลอง mix & match แล้วศึกษาไปเรื่อย ๆ ด้วยตนเอง จะได้รู้ว่าอะไรเหมาะ และอะไรไม่เหมาะ
4. บำรุงสม่ำเสมอ : ขั้นตอนสำคัญที่สุด ก่อนจะจัดการเปลี่ยนสีผม นั่นก็คือ การบำรุง ซึ่งจำเป็นมาก ๆ ยิ่งถ้าเป็นสีที่แตกต่างจากสีผมธรรมชาติมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องการการบำรุงมากขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าอยากข้ามขั้นตอนไปทำสีผมเลย แบบว่าไม่มีเวลาเท่าไร แนะนำให้ทำสีแต่ไม่แตกต่างจากสีผมธรรมชาติมากนักจะดีกว่า
5. เช็คทรงผม : ถ้าสาวคนไหนผมแห้งกรอบมาก ไม่ไหวจริง ๆ ไม่ว่าจะเพราะแสงแดดร้อน ๆ ว่ายน้ำบ่อย ๆ หรือผ่านการทำสีมามาก ก่อนจะทำสีผมควรระวังเป็นพิเศษ การที่ผมแห้งนั่นหมายความว่า ผมจะค่อนข้างมีความบอบบาง ซึ่งจะทำให้การย้อมนั้นติดสีได้เร็ว และสีออกมาชัดเจนกว่าปกติ ถ้าผมแห้งไม่สม่ำเสมอ นี่ค่อนข้างจะเป็นปัญหาสักหน่อย แต่แก้ได้ไม่ยาก โดยก่อนจะทำสีผม ให้บำรุงด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์ ทรีทเมนท์ และพักผมไว้อย่างน้อย 3 วัน ก่อนจะเริ่มทำ
6. อย่าสระผมก่อนทำทันที – จะดีมากถ้าเราได้สระผมในตอนเช้าก่อนจะทำสีผม เพราะจะทำให้ผมมีน้ำมันตามธรรมชาติออกมาหล่อเลี้ยง และจะช่วยป้องกันผมขณะที่เราทำสีผมด้วย ย้ำอีกครั้ง ถ้าทำขณะที่ผมกำลังแห้งสนิทนั้นไม่ค่อยจะดีเท่าไร จึงควรรอให้ผมชุ่มชื้นสักนิดนึงนะ
7. มองหาทรีทเมนท์ – อยากจะแนะนำสาวๆ ให้บำรุงผมด้วยทรีทเมนท์ก่อนทำสีผมประมาณ 3 วัน อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อป้องกันผมไม่ให้แห้งเสีย รวมถึงส่งผลให้การทำสีผมออกมาดีที่สุด แถมยังช่วยป้องกันไม่ให้สีผิดเพี้ยนไปจากที่ต้องการได้อีกด้วย
7. มองหาทรีทเมนท์ – อยากจะแนะนำสาวๆ ให้บำรุงผมด้วยทรีทเมนท์ก่อนทำสีผมประมาณ 3 วัน อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อป้องกันผมไม่ให้แห้งเสีย รวมถึงส่งผลให้การทำสีผมออกมาดีที่สุด แถมยังช่วยป้องกันไม่ให้สีผิดเพี้ยนไปจากที่ต้องการได้อีกด้วย
8. ลองก่อนทำ – รู้หรือเปล่าว่า เดี๋ยวนี้มีเว็บไซต์ที่ช่วยให้เราได้ลองทำสีผมในแบบที่เราอยากลองได้โดยที่ไม่ต้องทำจริงๆ ด้วย? ไม่รู้ล่ะสิ จะบอกให้ก็ได้ว่าเว็บไซต์เหล่านี้จะทำให้เราได้ลองกันเต็มที่ จะลองทำกี่สีก็ได้ โดยเราจะได้รู้ว่าการทำสีผมแต่ละสีของเราจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งสามารถลองทำดูได้ที่เว็บไซต์ makeovr.com หรือ thehairstyler.com
9. ดูอารมณ์ตัวเอง – ทะเลาะกับแฟนอยู่หรือเปล่า? อกหักแต่ไม่อยากเศร้า? แล้วทำไมต้องทำสีผมเอาตอนนี้ล่ะเนี่ย? รู้นะว่าสาวๆ ทั้งหลายอาจจะเป็นอย่างนี้ แต่บอกไว้เลยว่าระวังให้ดี อาจจะต้องเสียใจเมื่อทำสีผมขณะที่อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ เพราะบางครั้ง เมื่อเราแปรปรวน เราก็อาจจะอยากทำอะไรบ้าๆ หลุดโลกขึ้นมา จึงขอบอกชัดๆ ไว้เลยว่า ทำสีผมให้ขณะที่อารมณ์คงที่เถอะนะ คิดให้ดีก่อนที่จะทำสีผม เพราะมันอาจจะไม่สามารถแก้ไขได้อีกครั้ง แต่ถ้ารู้สึกว่ายังไงฉันก็จะเปลี่ยนให้ได้! ทาเล็บสีใหม่ๆ แทนก็พอ หรือจะซื้อลิปกลอส ลิปสติกสีใหม่ หรือลองเปลี่ยนแชมพู เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว ถ้ามันไม่เกินงบที่มีอยู่นักมันก็ไม่ผิดหรอกน้า
สีผมสวย ๆ
ทิ้งท้ายด้วย เทคนิคการเลือกโทนสีทำผมให้เข้ากับสีผิว
- ผิวขาวอมชมพู (White Pink) สีผิวนี้อยู่ในกลุ่มโทนอุ่น ดูมีสุขภาพดีกว่าสีผิวอื่นๆ ควรจะทำผมเฉดสีบลอนด์ประกายหม่น หรือ ไม่ก็เป็นโทนน้ำตาลทอง เพราะจะทำให้ผิวไม่ซีดจาง
- ผิวขาวอมเหลือง (Ivory Peach) สีผิวนี้จะจัดอยู่ในลักษณะกลุ่มโทนเย็น ซึ่งสีผิวนี้จะทำให้ใบหน้าของสาวๆ ดูซีดเซียวเหนื่อยล้าไม่ค่อยสดใส ควรเลือกสีผมโทนประกายม่วงเหลือบแดง หรือ น้ำตาลแดงประกายม่วง จะช่วยทำให้ใบหน้า ดูดูกระฉับกระเฉง โฉบเฉี่ยว สดใสมากยิ่งขึ้น
- ผิวสองสีหรือสีผิวน้ำผึ้ง (Golden Beige Amber) สีผิวแบบนี้จะจัดอยู่ในกลุ่มโทนเย็น เป็นความโชคดีของคนผิวสองสี เพราะจะมีเสน่ห์เซ็กซี่แฝงอยู่ในตัวเอง ดูคมและน่ามอง แล้วยิ่งถ้าได้ทำผมโทนสีทองเคลือบประกายทอง หรือ สีน้ำตาลอ่อนด้วยแล้ว จะยิ่งเน้นให้ใบหน้าดูสว่างจนเผยความเซ็กซี่ที่มีอยู่ในตัวเองออกมา
- ผิวสีแทนหรือผิวคล้ำเข้ม (Beige Olive) สีผิวนี้จะอยู่ในโทนอุ่น ด้วยความที่เป็นที่มีผิวเข้มอยู่แล้ว จึงเหมาะกับสีผมน้ำตาลแท้ หรือ น้ำตามช็อกโกแลต เพราะจะยิ่งช่วยขับให้ผิวที่เข้มนั้นดูไม่ด้านทึบจนเกินไป
สาวๆ คนไหนเคยทำสีผมพลาดบ้าง? ลองมาแชร์ประสบการณ์กันดู ไม่ต้องเขินอาย คนเราก็ต้องเคยผิดพลาดกันบ้างสักครั้ง เอ๊ะ หรือหลายครั้งนะ.. ถึงยังไงก็อย่าลืมติดตาม Tip & Trick ที่เรานำมาฝากกันด้วยนะ ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไร อย่าพลาด รับรองโดนใจสาวๆ ชาว cosme*net แน่นอนจ้า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น