สายสามัญ vs สายอาชีพ
เผยข้อดี/ข้อเสียของการเรียน”สายสามัญ”และ”สายอาชีพ”
ทุกคนบางทียังตอนเรียนจบยังไม่รู้ว่าจริงๆ เเล้ว การเรียน “สายสามัญกับสายอาชีพ” นั้นมีข้อดีข้อเสียอย่างไร แม้กระทั่งผู้ปกครองก็ยังไม่รู้เลย รู้กันแต่เพียงว่าเรียนๆ ให้จบไปแล้วหางานทำก็พอ สำหรับโพสต์นี้ Thaijobsgov จึงขอตีแผ่ข้อมูลของทั้งสองสายการเรียนนี้ เพื่อเห็นข้อแตกต่างกัน ผู้ปกครองบางบ้าน เด็กบางคน จะได้เข้าใจเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตนเอง/ลูกหลานตนเองเสียที
ถ้าเปรียบเทียบหลักสูตรและจุดเด่นระหว่างสายสามัญและสายอาชีพ จะเห็นได้ว่าสายสามัญและสายอาชีพมีความแตกต่างกันอยู่หลายอย่าง การเรียนสายสามัญ คือ การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกระทรวงศึกษาธิการกำหนด โดยให้ความสำคัญกับการจัดการเรียนการสอน 8 กลุ่มสาระ และสาระเพิ่มเติม
ข้อดีของการเรียนสามัญ
1. ความรู้พื้นฐานทั่วไป จะได้มากกว่าสายอาชีพ
2. เลือกเรียนในมหาวิทยาลัยได้ทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเอกชนหรือรัฐ
3. มีโอกาสเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ต่างประเทศหรือกิจกรรมอื่นๆได้มากกว่า (อยู่ที่ตัวเองและการสนับสนุนของโรงเรียน)
4. สังคมแวดวงเพื่อน จะดีกว่า สายอาชีพ (โดยส่วนใหญ่นะ)
2. เลือกเรียนในมหาวิทยาลัยได้ทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเอกชนหรือรัฐ
3. มีโอกาสเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ต่างประเทศหรือกิจกรรมอื่นๆได้มากกว่า (อยู่ที่ตัวเองและการสนับสนุนของโรงเรียน)
4. สังคมแวดวงเพื่อน จะดีกว่า สายอาชีพ (โดยส่วนใหญ่นะ)
ข้อเสียของการเรียนสายสามัญ
1. ความรู้เฉพาะด้านอาจไม่แน่นเท่าสายอาชีพ (ในบางกรณี)2. จบ ม.6 ถ้าไม่ต่อปริญญาตรี จะไม่มีความหมายเลย***เน้นๆ
3. สายสามัญส่วนใหญ่จะไม่เจอวิชาชีวิต (ประสบการณ์ต่างๆ การเอาตัวรอด พบเจออะไรแย่ๆ) เท่าสายอาชีพ(โดยส่วนใหญ่)
ข้อดีของการเรียนสายอาชีพ
ความรู้เฉพาะด้านแน่น ถ้าคนที่เลือกเรียนต่อในสาขาที่เรียนมา จะได้เปรียบกว่าสายสามัญ เมื่อเข้าไปเรียนในมหา'ลัย ถ้าไม่เรียนต่อ ก็ไม่เป็นไร สามารถทำงานได้เลย แถมยังไปสอบราชการก็ได้อีกด้วย
ข้อเสียการเรียนสายอาชีพ
1. มีข้อจำกัดในการต่อมหา'ลัย เพราะมหา'ลัยรัฐหลายที่หลายคณะที่เขาไม่รับเด็กสายอาชีพ ถ้าเป็นเอกชนก็แล้วไป
2. สังคมสายอาชีพไม่ค่อยดี เด็กเกเร เสียส่วนใหญ่ (ไม่ได้เป็นเด็กเกเรทุกคน)
1. มีข้อจำกัดในการต่อมหา'ลัย เพราะมหา'ลัยรัฐหลายที่หลายคณะที่เขาไม่รับเด็กสายอาชีพ ถ้าเป็นเอกชนก็แล้วไป
2. สังคมสายอาชีพไม่ค่อยดี เด็กเกเร เสียส่วนใหญ่ (ไม่ได้เป็นเด็กเกเรทุกคน)
ย้ำอีกครั้งว่าโพสต์นี้ไม่มีเจตนาจะให้มาทะเลาะกันว่าสายวิชาไหนดีกว่ากัน หรือดีที่สุดนะจ๊ะ เราแค่ถัวเฉลี่ยข้อดีข้อเสียของแต่ละสายดู เพราะสุดท้ายแล้ว ตัวผู้เรียนก็จะเป็นคนบอกได้เองว่าแบบไหนเหมาะกับตัวเองที่สุด อีกทั้งตลาดอาชีพในปัจจุบันนี้ก็มิได้กีดกันว่าจะต้องเป็นสายอาชีพหรือสายสามัญ ถ้ามั่นใจว่าตัวเองมีดี องค์กรไหนก็พร้อมจะเปิดรับเข้าทำงานแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : thewayfortomorrow.blogspot.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น