ข้อมูลการทำ Prtfolio
Portfolio หรือแฟ้มสะสมผลงานของพื่อนๆ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้กรรมการสอบสัมภาษณ์ได้รู้จักเพื่อนๆในเบื้องต้น นอกจากนั้นยังเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ทำให้กรรมการสอบสัมภาษณ์ใช้พิจารณาว่าเรามีคุณสมบัติมากพอในการรับเราเข้าศึกษารึเปล่าคะ วันนี้จะรีบมาแนะนำเพื่อนๆ กับ 10 สิ่งที่ควรมีใน Portfolio รีบไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง
1. หน้าปก
ถือเป็นส่วนแรกและส่วนสำคัญอันดับต้นๆ ของ Portfolio เลยนะคะ ซึ่งโจทย์ที่สำคัญของการทำหน้าปกคือ 'ทำยังไงให้อาจารย์อยากหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน' พูดง่ายแต่ทำยากค่ะ งานนี้เพื่อนๆ หลายคน เลยขอใช้วิชา Photoshop , Illustrator เพื่อสร้างความสนใจให้กับหน้าปกของตัวเองกัน นอกจากความน่าสนแล้วอย่าลืมนะคะ ว่าหน้าปกที่ดีควรที่จะมีรูปของเรา ชื่อ นามสกุล โรงเรียน ด้วยค่ะ เพราะนอกจากอาจารย์จะเห็นภาพแล้ว จะได้เห็นข้อมูลพื้นฐานของเราด้วย
2. ประวัติส่วนตัว
เป็นส่วนแรกที่กรรมการจะได้รู้จักเราเลยนะคะ เพราะนอกจากจะถือว่าอยู่บริเวณด้านหน้าของ Portfolio รองจากหน้าปกและปกในแล้ว ประวัติส่วนตัวยังเป็นส่วนที่บอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเรา โดยที่เราไม่ต้องแนะนำหรือเล่าเป็นเวลานานค่ะ เช่น ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น วันเดือนปีเกิด อายุ สัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา จำนวนพี่น้อง จบ/กำลังศึกษาอยู่ที่ ระดับชั้น สายการเรียน บิดา มารดา เป็นต้นค่ะ
3. ประวัติการศึกษา
อย่างที่รู้นะคะว่าเรากำลังมาสมัครเข้าศึกษาต่อติการศึกษา ดังนั้น อาจารย์ก็อยากจะทราบแน่นอนค่ะ ว่าเราเรียนจบจากที่ไหนมา ได้เกรดเฉลี่ยเท่าไหร่ บางคนสงสัยว่าต้องบอกตั้งแต่ชั้นไหน แนะนำเลยค่ะ ว่าถ้ายังจำได้ตั้งแต่อนุบาลเลยก็ยิ่งดี แต่ถ้าใครที่ความทรงจำตอนอนุบาลเริ่มลางเลือน ก็ขอเป็นช่วงประถมก็พอค่ะ พี่อีฟขอบอกเคล็ดลับนิดนึงว่า ส่วนนี้ทำเป็นตารางจะดูเป็นระเบียบที่สุดค่ะ
1. หน้าปก
ถือเป็นส่วนแรกและส่วนสำคัญอันดับต้นๆ ของ Portfolio เลยนะคะ ซึ่งโจทย์ที่สำคัญของการทำหน้าปกคือ 'ทำยังไงให้อาจารย์อยากหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน' พูดง่ายแต่ทำยากค่ะ งานนี้เพื่อนๆ หลายคน เลยขอใช้วิชา Photoshop , Illustrator เพื่อสร้างความสนใจให้กับหน้าปกของตัวเองกัน นอกจากความน่าสนแล้วอย่าลืมนะคะ ว่าหน้าปกที่ดีควรที่จะมีรูปของเรา ชื่อ นามสกุล โรงเรียน ด้วยค่ะ เพราะนอกจากอาจารย์จะเห็นภาพแล้ว จะได้เห็นข้อมูลพื้นฐานของเราด้วย
2. ประวัติส่วนตัว
เป็นส่วนแรกที่กรรมการจะได้รู้จักเราเลยนะคะ เพราะนอกจากจะถือว่าอยู่บริเวณด้านหน้าของ Portfolio รองจากหน้าปกและปกในแล้ว ประวัติส่วนตัวยังเป็นส่วนที่บอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเรา โดยที่เราไม่ต้องแนะนำหรือเล่าเป็นเวลานานค่ะ เช่น ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น วันเดือนปีเกิด อายุ สัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา จำนวนพี่น้อง จบ/กำลังศึกษาอยู่ที่ ระดับชั้น สายการเรียน บิดา มารดา เป็นต้นค่ะ
3. ประวัติการศึกษา
อย่างที่รู้นะคะว่าเรากำลังมาสมัครเข้าศึกษาต่อติการศึกษา ดังนั้น อาจารย์ก็อยากจะทราบแน่นอนค่ะ ว่าเราเรียนจบจากที่ไหนมา ได้เกรดเฉลี่ยเท่าไหร่ บางคนสงสัยว่าต้องบอกตั้งแต่ชั้นไหน แนะนำเลยค่ะ ว่าถ้ายังจำได้ตั้งแต่อนุบาลเลยก็ยิ่งดี แต่ถ้าใครที่ความทรงจำตอนอนุบาลเริ่มลางเลือน ก็ขอเป็นช่วงประถมก็พอค่ะ พี่อีฟขอบอกเคล็ดลับนิดนึงว่า ส่วนนี้ทำเป็นตารางจะดูเป็นระเบียบที่สุดค่ะ
4. ผลงาน
เปิด Portfolio เข้ามา ก็จะถึงส่วนที่เป็นส่วนสำคัญที่สุดของ Portfolio แล้วนะคะ สำหรับผลงานต่างๆ ของเพื่อนๆ ในส่วนนี้บอกได้เลยว่าสามารถเลือกเอาผลงานเด่นๆ มานำเสมอได้ทั้งหมด ตั้งแต่ผลงานระดับโรงเรียน ไปจนถึงผลงานระดับประเทศ แต่ควรเกี่ยวข้องกับ คณะ/สาขา ที่เราจะเข้าด้วยนะคะ ถ้าคิดว่าไม่เกี่ยวข้องก็เอาที่โดดเด่นมากที่สุด หรือถ้ามีเยอะก็เอามาแค่ 2-3 ผลงานก็พอค่ะ ควรมีการบรรยายว่าผลงานนั้นทำที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่ เรามีส่วนร่วมอะไร และเราได้อะไรจากการทำผลงานนั้น ๆ ค่ะ
5. คำนิยม
สำหรับข้อนี้ ไม่มีก็ถือว่าไม่ได้ผิดอะไรนะคะ แต่ถ้ามีก็จะทำให้ Portfolio และประวัติต่างๆ ของเราดูน่าเชื่อถือขึ้นมากเลยค่ะ ซึ่งคำนิยมก็คือสิ่งที่อาจารย์ได้เขียนถึงเราในเรื่องของนิสัย ความประพฤติ กิจกรรม ผลงาน คำนิยมจะเป็นแบบพิมพ์หรือเขียนก็ได้ค่ะ สำคัญตรงที่ต้องมีลายเซ็นต์รับรองจากอาจารย์ผู้เขียนเท่านั้นเอง จะมีอาจารย์ที่เขียนคำนิยมมากว่า 1 ท่านก็ได้ค่ะ อาจจะเป็นอาจารย์ประจำชั้น อาจารย์ประจำวิชา ครูใหญ่ ผอ. ได้หมดเลยค่ะ แต่ในส่วนนี้ต้องทำเรื่องขอกันสักหน่อยนะคะ และอย่างที่บอกค่ะ ว่าในส่วนนี้ไม่ได้บังคับและไม่ได้มีความจำเป็นมาก ดังนั้น ใครไม่มีก็ไม่ต้องกังวลค่ะ ข้ามไปดูข้ออื่นเลย
6. กิจกรรมที่เคยเข้าร่วม
กิจกรรมที่เคยเข้าร่วมก็มีลักษณะคล้ายๆ กับผลงานเลยค่ะ แต่จะเน้นไปที่อย่างอื่นที่ไม่ใช่ด้านวิชาการค่ะ เช่น ความสามารถพิเศษต่าง ๆ กิจกรรมกีฬาสี การเป็นประธานรุ่น เป็นประธานเชียร์ งานแสดงตามวันสำคัญต่าง ๆ การเป็นตัวแทนโรงเรียนถือป้ายโรงเรียน เป็นต้นค่ะ ลักษณะการทำก็จะคล้าย ๆ กับส่วนของผลงาน คือมีการบรรยายว่ากิจกรรมนั้นทำที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่ เรามีส่วนร่วมอะไร และเราได้อะไรจากการทำกิจกรรมนั้น ๆ ค่ะ
7. รูปถ่าย
เป็นส่วนที่สำคัญของ Portfolio เลยนะคะ เพราะนอกจากจะสามารถเล่าเรื่องราวทั้งหมดได้ง่าย ยังทำให้ Portfolio มีความน่าสนใจและไม่เรียบจนเกินไปด้วยค่ะ ซึ่งน้องๆ ควรมีรูปภาพประกอบในส่วนของประวัติส่วนตัว ผลงาน กิจกรรม หรือถ้าหากมีจำนวนมาก ก็ควรใส่ไว้ในเอกสารอ้างอิงค่ะ เพราะรูปถ่ายนั้นจะทำให้กรรมการเข้าใจในผลงานหรือกิจกรรมของน้องๆ มากขึ้น และมั่นใจได้ว่าน้องๆ เคยได้เข้าร่วมกิจกรรมหรือมีผลงานนั้นจริง
เปิด Portfolio เข้ามา ก็จะถึงส่วนที่เป็นส่วนสำคัญที่สุดของ Portfolio แล้วนะคะ สำหรับผลงานต่างๆ ของเพื่อนๆ ในส่วนนี้บอกได้เลยว่าสามารถเลือกเอาผลงานเด่นๆ มานำเสมอได้ทั้งหมด ตั้งแต่ผลงานระดับโรงเรียน ไปจนถึงผลงานระดับประเทศ แต่ควรเกี่ยวข้องกับ คณะ/สาขา ที่เราจะเข้าด้วยนะคะ ถ้าคิดว่าไม่เกี่ยวข้องก็เอาที่โดดเด่นมากที่สุด หรือถ้ามีเยอะก็เอามาแค่ 2-3 ผลงานก็พอค่ะ ควรมีการบรรยายว่าผลงานนั้นทำที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่ เรามีส่วนร่วมอะไร และเราได้อะไรจากการทำผลงานนั้น ๆ ค่ะ
5. คำนิยม
สำหรับข้อนี้ ไม่มีก็ถือว่าไม่ได้ผิดอะไรนะคะ แต่ถ้ามีก็จะทำให้ Portfolio และประวัติต่างๆ ของเราดูน่าเชื่อถือขึ้นมากเลยค่ะ ซึ่งคำนิยมก็คือสิ่งที่อาจารย์ได้เขียนถึงเราในเรื่องของนิสัย ความประพฤติ กิจกรรม ผลงาน คำนิยมจะเป็นแบบพิมพ์หรือเขียนก็ได้ค่ะ สำคัญตรงที่ต้องมีลายเซ็นต์รับรองจากอาจารย์ผู้เขียนเท่านั้นเอง จะมีอาจารย์ที่เขียนคำนิยมมากว่า 1 ท่านก็ได้ค่ะ อาจจะเป็นอาจารย์ประจำชั้น อาจารย์ประจำวิชา ครูใหญ่ ผอ. ได้หมดเลยค่ะ แต่ในส่วนนี้ต้องทำเรื่องขอกันสักหน่อยนะคะ และอย่างที่บอกค่ะ ว่าในส่วนนี้ไม่ได้บังคับและไม่ได้มีความจำเป็นมาก ดังนั้น ใครไม่มีก็ไม่ต้องกังวลค่ะ ข้ามไปดูข้ออื่นเลย
6. กิจกรรมที่เคยเข้าร่วม
กิจกรรมที่เคยเข้าร่วมก็มีลักษณะคล้ายๆ กับผลงานเลยค่ะ แต่จะเน้นไปที่อย่างอื่นที่ไม่ใช่ด้านวิชาการค่ะ เช่น ความสามารถพิเศษต่าง ๆ กิจกรรมกีฬาสี การเป็นประธานรุ่น เป็นประธานเชียร์ งานแสดงตามวันสำคัญต่าง ๆ การเป็นตัวแทนโรงเรียนถือป้ายโรงเรียน เป็นต้นค่ะ ลักษณะการทำก็จะคล้าย ๆ กับส่วนของผลงาน คือมีการบรรยายว่ากิจกรรมนั้นทำที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่ เรามีส่วนร่วมอะไร และเราได้อะไรจากการทำกิจกรรมนั้น ๆ ค่ะ
7. รูปถ่าย
เป็นส่วนที่สำคัญของ Portfolio เลยนะคะ เพราะนอกจากจะสามารถเล่าเรื่องราวทั้งหมดได้ง่าย ยังทำให้ Portfolio มีความน่าสนใจและไม่เรียบจนเกินไปด้วยค่ะ ซึ่งน้องๆ ควรมีรูปภาพประกอบในส่วนของประวัติส่วนตัว ผลงาน กิจกรรม หรือถ้าหากมีจำนวนมาก ก็ควรใส่ไว้ในเอกสารอ้างอิงค่ะ เพราะรูปถ่ายนั้นจะทำให้กรรมการเข้าใจในผลงานหรือกิจกรรมของน้องๆ มากขึ้น และมั่นใจได้ว่าน้องๆ เคยได้เข้าร่วมกิจกรรมหรือมีผลงานนั้นจริง
8. ใบประกาศนียบัตร
เป็นหลักฐานที่สำคัญในผลงานหรือการเข้าร่วมกิจกรรมของเราเลยนะคะ เคยไปประกวดอะไร อบรมที่ไหน เข้าร่วมกิจกรรมเมื่อไหร่ ใส่เข้ามาเลยค่ะ ยิ่งถ้าเกี่ยวข้องกับคณะ/สาขา ที่เราอยากเข้าแล้ว กรรมการสัมภาษณ์ก็จะยิ่งเห็นถึงความสามารถของเราค่ะ ซึ่งควรมีทั้งฉบับจริงและฉบับสำเนานะคะ เพราะถ้าหากคณะไม่คืน Portfolio เพื่อนๆ คงไม่สามารถไปหาใบใหม่ได้อีกแล้วค่ะ
9. ใบแสดงผลการเรียน
เป็นอีกหลักฐานที่สำคัญเลยค่ะสำหรับใบแสดงผลการเรียน เพราะเป็นเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันผลการเรียนของเพื่อนๆ รวมไปถึงความประพฤติต่างๆ จากโรงเรียนเดิมด้วย ที่ควรมีแน่นอนคือของชั้นม.ต้นและชั้นม.ปลายนะคะ ใครที่ยังไม่มี รีบไปขอจากทางโรงเรียนมาได้เลยค่ะ
10. ภาคผนวก/เอกสารอ้างอิง
ถือว่าเป็นส่วนท้ายของ Portfolio ที่เอาไว้ใช้รวบรวมเอกสารทั้งหมด รูปภาพจากกิจกรรมหรือผลงานต่างๆ ที่หากมีจำนวนมาก ก็ไม่ควรใส่อัดแน่นในเนื้อหานะคะ ควรนำมาไว้ในภาคผนวกแทน หรือในส่วนของประกาศนียบัตรและใบแสดงผลการเรียนก็มักจะถูกรวบรวมไว้ในส่วนนี้ด้วยค่ะ หรืออาจจะเป็นเอกสารที่ได้มาจากการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น เอกสารที่ได้รับจากบูธ Dek-D ในงาน Dek-D's Admission Fair เป็นต้นค่ะ เรียกได้ว่า เป็นส่วนสุดท้ายที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ
9. ใบแสดงผลการเรียน
เป็นอีกหลักฐานที่สำคัญเลยค่ะสำหรับใบแสดงผลการเรียน เพราะเป็นเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันผลการเรียนของเพื่อนๆ รวมไปถึงความประพฤติต่างๆ จากโรงเรียนเดิมด้วย ที่ควรมีแน่นอนคือของชั้นม.ต้นและชั้นม.ปลายนะคะ ใครที่ยังไม่มี รีบไปขอจากทางโรงเรียนมาได้เลยค่ะ
10. ภาคผนวก/เอกสารอ้างอิง
ถือว่าเป็นส่วนท้ายของ Portfolio ที่เอาไว้ใช้รวบรวมเอกสารทั้งหมด รูปภาพจากกิจกรรมหรือผลงานต่างๆ ที่หากมีจำนวนมาก ก็ไม่ควรใส่อัดแน่นในเนื้อหานะคะ ควรนำมาไว้ในภาคผนวกแทน หรือในส่วนของประกาศนียบัตรและใบแสดงผลการเรียนก็มักจะถูกรวบรวมไว้ในส่วนนี้ด้วยค่ะ หรืออาจจะเป็นเอกสารที่ได้มาจากการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น เอกสารที่ได้รับจากบูธ Dek-D ในงาน Dek-D's Admission Fair เป็นต้นค่ะ เรียกได้ว่า เป็นส่วนสุดท้ายที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น